หลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งและโลหิตวิทยาซึ่งจำเป็นต้องใช้ยาที่มีค่าใช้จ่ายสูง

หลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งและโลหิตวิทยาซึ่งจำเป็นต้องใช้ยาที่มีค่าใช้จ่ายสูง

โดยเป็นการปรับปรุงโครงการเบิกจ่ายตรงสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งซึ่งจำเป็นต้องใช้ยาที่มีค่าใช้จ่ายสูง 9 รายการ ซึ่งแบ่งออกเป็น 17 โปรโตคอล (ปรับปรุงจากเดิมที่มี 6 รายการยา) ซึ่งกรมบัญชีกลางกำหนดให้ผู้มีสิทธิสวัสดิการรักษาข้าราชการและบุคคลในครอบครัวซึ่งป่วยด้วยโรคมะเร็งและโลหิตวิทยาที่แพทย์ผู้ทำการรักษามีแผนการรักษาด้วยยาที่มีค่าใช้จ่ายสูง 9 รายการยาดังกล่าว ดำเนินการลงทะเบียน ณ สถานพยาบาลเพื่อเข้าโครงการเบิกจ่ายตรง เรียกว่า ระบบ OCPA (ระบบลงทะเบียนก่อนใช้ที่กรมบัญชีกลางให้สถานพยาบาลลงทะเบียนแพทย์และผู้ป่วย และส่งข้อมูลการรักษาพยาบาลเพื่อเบิกจ่ายตรงกับกรมบัญชีกลางตามเงื่อนไขการเบิกค่ายาที่กระทรวงการคลังกำหนด โดยระบุว่าเพื่อลดภาระการทดรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลของผู้ป่วย)

และผู้มีสิทธิไม่สามารถนำใบเสร็จรับเงินค่ายา 9 รายการดังกล่าว ทุกรูปแบบ ขนาด และความแรงมายื่นเบิกเงินกับส่วนราชการต้นสังกัดได้ ซึ่งในกรณีนี้กรมบัญชีกลางได้ทำหนังสือแจ้งผู้อำนวยการสถานพยาบาลของทางราชการทุกแห่งว่า ให้สถานพยาบาลออกใบเสร็จรรับเงินค่ายาในระบบ OCPA จำนวน 9 รายการยาดังกล่าวให้ระบุเป็น “ค่ายาที่เบิกไม่ได้” เพื่อมิให้ผู้มีสิทธินำไปยื่นขอเบิกเงินจากส่วนราชการต้นสังกัด

สำหรับยารักษาโรคมะเร็งและโลหิตวิทยาที่มีค่าใช้จ่ายสูง (เช่น กลุ่มยารักษาโรคมะเร็งชนิดมุ่งเป้า กลุ่มยาชีววัตถุ เป็นต้น) ที่อยู่นอกระบบ OCPA นั้น กรมบัญชีกลางจะมีการพิจารณาปรับเข้าระบบ OCPA หรือกำหนดกรอบรายการยาพร้อมทั้งเงื่อนไข/ข้อบ่งชี้ในการเบิกจ่ายค่ายากลุ่มดังกล่าว ซึ่งหากดำเนินการแล้วเสร็จจะประกาศให้ทราบและถือปฏิบัติต่อไป

ขณะที่การเบิกจ่ายค่ายารักษาโรคมะเร็งและโลหิตวิทยาในส่วนของรายการยารักษาโรคที่ไม่ให้เบิกในระบบเบิกจ่ายตรงค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก/ไม่ให้เบิกแยกต่างหากจาก DRGs นั้น กรมบัญชีกลางให้สถานพยาบาลดำเนินการดังนี้

1.กรณีการรักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยนอก ให้สถานพยาบาลออกใบเสร็จรับเงินค่ายาพร้อมทั้งหลักฐานประกอบการเบิกจ่าย เพื่อให้ผู้มีสิทธินำไปยื่นเบิกกับส่วนราชการต้นสังกัด โดยมิให้ส่งเบิกเงินค่ายาดังกล่าวในระบบเบิกจ่ายตรงค่ารักษาพยาบาล

2.กรณีการรักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยใน ให้เบิกจ่ายตามกลุ่มวินิจฉัยโรคร่วม (DRGs) โดยมิให้เบิกค่ายาดังกล่าวแยกต่างห่างจาก DRGs

ทั้งนี้ให้มีผลบังคับใช้สำหรับการรักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2561 เป็นต้นไป


ไฟล์แนบข่าว (คลิกเพื่อดาวน์โหลดไฟล์แนบ)


Share this post